top of page
ค้นหา

Trans-PRK & Standard PRK

Standard PRK
PRK / Trans PRK

เป็นการรักษาสายตาสั้นเอียงโดยใช้เลเซอร์ยิงผิวกระจกตาหลังลอกเซลล์ผิวกระจกตาชั้นบนสุดออกแล้ว โดยไม่มีการเปิดฝากระจกตา หลังจากแผลหายกระจกตาจะไร้รอยต่อ ค่าสายตาและความคมชัดของการมองเห็นจะเหมือนการทำเลสิก แต่จะใช้เวลาฟื้นตัวนานกว่า เร็วช้าขึ้นอยู่กับแต่ละบุคคล โดยเฉลี่ยสามารถเริ่มมองเห็นได้ประมาณ 70-80% ที่ประมาณ 2 สัปดาห์ขึ้นไป บางรายอาจเร็วกว่าหรือช้ากว่านั้น หลังทำ PRK จะมีอาการระคายเคืองตาแพ้แสงอยู่ประมาณ 2-4 วัน ซึ่งจะมากและนานกว่าการทำเลสิก แต่ข้อดีของการทำ PRK คือ เวลาหายจะไม่มีรอยต่อของกระจกตา ทำให้ความแข็งแรงของกระจกตามีมากกว่าการทำเลสิก และผลเรื่องตาแห้งจะน้อยกว่าและหายได้เร็วกว่าการทำเลสิก

การมองเห็นหลังทำ PRK ในช่วง1สัปดาห์แรก การมองเห็นจะยังชัดๆเบลอๆสลับไปมา มองได้ระดับประมาณคนสายตาสั้นประมาณ 100 มองเห็น สามารถใช้ชีวิตประจำวันทั่วไปได้แต่การมองตัวหนังสือ การใช้คอมพิวเตอร์หรือการขับรถจะยังเบลออยู่ หลังจากแผลหายสนิท แพทย์ถอดคอนแทคเลนส์ออกแล้ว การมองเห็นจะค่อยๆดีขึ้นเรื่อยๆ หากสามารถพักสายตาได้เพียงพอ หยอดน้ำตาเทียมบ่อยๆ การฟื้นตัวจะยิ่งเร็วขึ้น โดยเฉลี่ยที่ประมาณ 1-3 เดือน การมองเห็นก็จะได้มากกว่า 90% และสายตาจะนิ่งค่อนข้างไม่เปลี่ยนแปลงที่ประมาณ 3-6 เดือนขึ้นไป


ปัจจัยที่ทำให้การมองเห็นฟื้นตัวช้ากว่าที่ควร


  1. ไม่ได้พักสายตา ใช้หน้าจอมากในช่วงแรกๆ

  2. ตาแห้งมาก

  3. เกิดฝ้าที่กระจกตา ความเสี่ยงนี้จะพบในคนที่เป็นแผลเป็นง่าย เป็นคีลอยง่าย ทำกิจกรรมกลางแจ้ง โดดแดด แสงUVมาก ในช่วง1-3เดือนแรก

  4. เกิดการติดเชื้อที่กระจกตา


PRK มี 2 technique ที่นิยมใช้ในปัจจุบัน คือ


  1. Standard PRK

    หรือเรียกทั่วๆไปว่า PRK เทคนิคนี้เราจะใช้แอลกอฮอล์ขังเหนือผิวกระจกตา เพื่อให้ผิวกระจกตาชั้นบนสุดลอกตัวออก จากนั้นจึงใช้เลเซอร์ยิงเจียผิวกระจกตาเพื่อรักษาสายตาสั้น-เอียงที่มี


  2. Trans PRK , no touch technique

    เทคนิคนี้เราจะใช้เลเซอร์ขั้นตอนเดียวยิงลอกผิวกระจกตาชั้นบนสุด แล้วยิงต่อด้วยเลเซอร์แก้ไขสายตา ผลการรักษาที่ได้จะฟื้นตัวเร็วกว่าวิธีแรก เจ็บเคืองน้อยกว่าเล็กน้อย ใช้เวลาในการทำเร็วกว่าเล็กน้อยและคนไข้ร่วมมือได้ง่ายกว่า เหมาะกับคนที่ขี้กลัว ขี้กังวล


ระยะเวลาทั้งหมดในการทำผ่าตัดทั้งสองเทคนิคไม่เกิน 10 นาที ก็เสร็จเรียบร้อย

ทั้งสองวิธีเราจะมีการแปะยาเพื่อป้องกันการเกิดฝ้าที่กระจกตา และใส่คอนแทคเลนส์ในตาไว้ประมาณ 5-7วัน โดยไม่ต้องถอดออก แพทย์จะเป็นคนถอดออกให้เองเมื่อแผลหาย


ผลข้างเคียงหลังทำ PRK


  1. ระคายเคืองตา แพ้แสงน้ำตาไหลใน2-4วันแรก

  2. อาการเห็นแสงกระเจิง รุ้ง แฉก หรือเงาซ้อน เวลามองแสงไฟในเวลากลามคืน จะเป็นมากใน2สัปดาห์แรก และจะค่อยๆดีขึ้นเรื่อยๆ และใกล้เคียงปกติหลัง 3-6เดือน มีบางรายอาจยังมีเรื่องแสงกระเจิงได้ถาวรซึ่งพบได้น้อย

  3. ตาแห้ง อาการจะค่อยๆดีขึ้นเรื่อยๆหลัง3-6 เดือน

  4. เกิดฝ้าที่กระจกตา ความเสี่ยงนี้จะพบในคนที่เป็นแผลเป็นง่าย เป็นคีลอยง่าย ทำกิจกรรมกลางแจ้ง โดดแดด แสงUVมาก ในช่วง1-3เดือนแรก อย่างไรก็ตาม แพทย์จะมีการใช้ยาเพื่อป้องกันการเกิดฝ้าในระหว่างที่ทำผ่าตัด และให้ยาหยอดตาหลังทำผ่าตัดเพื่อป้องกัน


ใครบ้างที่เหมาะที่จะทำPRK


  1. สายตาสั้น+เอียงไม่เกิน 600

  2. ไม่มีแผลเป็นที่กระจกตาหรือโรคทางตาอื่นๆ เช่น ต้อหิน จอประสาทตาหลุดลอก ตาแห้งรุนแรง เป็นต้น

  3. ไม่มีโรคประจำตัว เช่น โรคไทรอยด์เป็นพิษ โรคภูมิต้านทานผิดปกติ โรคเนื้อเยื่อเกี่ยวพัน (SLE รูมาตอยด์) เบาหวานที่ควบคุมไม่ดี

  4. ผู้ที่มีตาแห้งน้อยถึงปานกลาง สามารถทำวิธีนี้ได้ เนื่องจากวิธีนี้จะมีผลข้างเคียงเรื่องตาแห้งน้อยกว่าเลสิก

  5. ผู้ที่ชอบทำกิจกรรม หรือมีอาชีพ ที่โลดโผนมีความเสี่ยงบ่อยในการเกิดอุบัติเหตุกระทบกระแทกที่ดวงตา เนื่องจากกระจกตาจะมีความแข็งแรงเหมือนคนปกติ ไร้รอยต่อ

  6. ผู้ที่สามารถรอเวลาการฟื้นตัวของการมองเห็นได้ เนื่องจากการมองเห็นและค่าสายตาจะค่อยๆดีขึ้นเรื่อยๆ อย่างช้าๆ หลัง2-3สัปดาห์


การเตรียมตัวก่อนมาตรวจ >> เหมือนการเตรียมตัวก่อนทำเลสิกทั่วไป


  1. ถอดคอนแทคเลนส์ก่อนมาตรวจ ถ้าเป็นเลนส์นิ่มไม่แก้เอียงถอดมาอย่างน้อย3วัน , ถ้าเป็นเลนส์นิ่มที่แก้เอียง ให้ถอดมาอย่างน้อย1สัปดาห์, ถ้าเป็นเลนส์แข็ง ให้ถอดมาอย่างน้อย2สัปดาห์

  2. หยอดน้ำตาเทียมมาบ่อยๆ ทุกๆ1-2 ชั่วโมง




นะนำทำ PRK ก่อนไปสอบทหารหรือตำรวจ อย่างน้อย 3เดือน เพื่อผลของการรักษาที่ดีเต็มที่ ค่าสายตานิ่งเป็นปกติ และไม่มีร่องรอยที่ผิวกระจกตา

การปฏิบัติตัวหลังทำPRK


  1. หยอดยาตามแพทย์สั่งอย่างเคร่งครัด หยอดน้ำตาเทียมบ่อยๆ จะทำให้แผลหายเร็วขึ้น

  2. ทานวิตามินซี 1000 mg 1-2 เม็ดต่อวัน เป็นเวลาอย่างน้อย 1-2 เดือน เพื่อลดโอกาสเกิดฝ้าที่กระจกตาและทำให้แผลสมานเร็วขึ้น

  3. งดออกแดดทำกิจกรรมการแจ้ง ป้องกันแสงUV ไม่ให้เข้าตา ในช่วง 3-6เดือนแรก ใส่แว่นตากันแดดและหมวกปีกกว้างหากจำเป็นต้องอยู่กลางแจ้ง

การโดนแสงแดด แสง UV ในช่วงแรกจะมีโอกาสเกิดฝ้าที่กระจกตา ซึ่งถ้าเกิดฝ้าขึ้นจะต้องหยอดยารักษาฝ้าเป็นเวลาหลายเดือน และอาจทำให้ค่าสายตาไม่ดี เห็นรอยฝ้าจากการทำผ่าตัดได้

4. ช่วงสัปดาห์แรก พักสายตาบ่อยๆ งดใช้จอมือถือ คอมพิวเตอร์ นอนพักผ่อนให้เพียงพอ เพื่อให้แผล สมานตัวเร็ว จะทำให้การมองเห็นชัดเจนเร็วยิ่งขึ้น

5. ช่วงสัปดาห์แรกระวังเรือ่งความสะอาดให้มากๆ ห้ามน้ำเข้าตาโดยเด็ดขาด ระวังฝุ่นควัน เหงื่อไคลเข้าตา งดออกกำลังกาย เพื่อป้องกันการติดเชื้อ หากมีการติดเชื้อ อาจทำให้เกิดสายตามัวหรือแผลเป็นที่กระจกตาแบบถาวรได้

6. งดรับประทานปิ้งย่าง หรืออยู่หน้าเตาร้อนๆ มีควันมากๆ 1 สัปดาห์

7. หลัง 1-2 สัปดาห์ สามารถออกกำลังกาย ล้างหน้าได้ตามปกติ



บทความโดยแพทย์หญิงไรนา จินดาศักดิ์

 
 
 

Comments


02-408-0113, 091-0190829

  • Facebook
  • TikTok

LINE ID : stheent

โรงพยาบาลสมิติเวชธนบุรี

Samitivej Thonburi Hospital, Somdet Phra Chao Tak Sin Road, Samre, Thon Buri, Bangkok, Thailand

© 2035 by Doctor Raina Eyes and LASIK. Powered and secured by Wix 

Your Vision is Our Priority

Free Online Consultation

Birthday
วัน
เดือน
ปี
bottom of page