Trans-PRK & Standard PRK
- Dr.Raina J.
- 9 เม.ย.
- ยาว 1 นาที

เป็นการรักษาสายตาสั้นเอียงโดยใช้เลเซอร์ยิงผิวกระจกตาหลังลอกเซลล์ผิวกระจกตาชั้นบนสุดออกแล้ว โดยไม่มีการเปิดฝากระจกตา หลังจากแผลหายกระจกตาจะไร้รอยต่อ ค่าสายตาและความคมชัดของการมองเห็นจะเหมือนการทำเลสิก แต่จะใช้เวลาฟื้นตัวนานกว่า เร็วช้าขึ้นอยู่กับแต่ละบุคคล โดยเฉลี่ยสามารถเริ่มมองเห็นได้ประมาณ 70-80% ที่ประมาณ 2 สัปดาห์ขึ้นไป บางรายอาจเร็วกว่าหรือช้ากว่านั้น หลังทำ PRK จะมีอาการระคายเคืองตาแพ้แสงอยู่ประมาณ 2-4 วัน ซึ่งจะมากและนานกว่าการทำเลสิก แต่ข้อดีของการทำ PRK คือ เวลาหายจะไม่มีรอยต่อของกระจกตา ทำให้ความแข็งแรงของกระจกตามีมากกว่าการทำเลสิก และผลเรื่องตาแห้งจะน้อยกว่าและหายได้เร็วกว่าการทำเลสิก
การมองเห็นหลังทำ PRK ในช่วง1สัปดาห์แรก การมองเห็นจะยังชัดๆเบลอๆสลับไปมา มองได้ระดับประมาณคนสายตาสั้นประมาณ 100 มองเห็น สามารถใช้ชีวิตประจำวันทั่วไปได้แต่การมองตัวหนังสือ การใช้คอมพิวเตอร์หรือการขับรถจะยังเบลออยู่ หลังจากแผลหายสนิท แพทย์ถอดคอนแทคเลนส์ออกแล้ว การมองเห็นจะค่อยๆดีขึ้นเรื่อยๆ หากสามารถพักสายตาได้เพียงพอ หยอดน้ำตาเทียมบ่อยๆ การฟื้นตัวจะยิ่งเร็วขึ้น โดยเฉลี่ยที่ประมาณ 1-3 เดือน การมองเห็นก็จะได้มากกว่า 90% และสายตาจะนิ่งค่อนข้างไม่เปลี่ยนแปลงที่ประมาณ 3-6 เดือนขึ้นไป
ปัจจัยที่ทำให้การมองเห็นฟื้นตัวช้ากว่าที่ควร

ไม่ได้พักสายตา ใช้หน้าจอมากในช่วงแรกๆ
ตาแห้งมาก
เกิดฝ้าที่กระจกตา ความเสี่ยงนี้จะพบในคนที่เป็นแผลเป็นง่าย เป็นคีลอยง่าย ทำกิจกรรมกลางแจ้ง โดดแดด แสงUVมาก ในช่วง1-3เดือนแรก
เกิดการติดเชื้อที่กระจกตา
PRK มี 2 technique ที่นิยมใช้ในปัจจุบัน คือ
Standard PRK
หรือเรียกทั่วๆไปว่า PRK เทคนิคนี้เราจะใช้แอลกอฮอล์ขังเหนือผิวกระจกตา เพื่อให้ผิวกระจกตาชั้นบนสุดลอกตัวออก จากนั้นจึงใช้เลเซอร์ยิงเจียผิวกระจกตาเพื่อรักษาสายตาสั้น-เอียงที่มี
Trans PRK , no touch technique
เทคนิคนี้เราจะใช้เลเซอร์ขั้นตอนเดียวยิงลอกผิวกระจกตาชั้นบนสุด แล้วยิงต่อด้วยเลเซอร์แก้ไขสายตา ผลการรักษาที่ได้จะฟื้นตัวเร็วกว่าวิธีแรก เจ็บเคืองน้อยกว่าเล็กน้อย ใช้เวลาในการทำเร็วกว่าเล็กน้อยและคนไข้ร่วมมือได้ง่ายกว่า เหมาะกับคนที่ขี้กลัว ขี้กังวล
ระยะเวลาทั้งหมดในการทำผ่าตัดทั้งสองเทคนิคไม่เกิน 10 นาที ก็เสร็จเรียบร้อย
ทั้งสองวิธีเราจะมีการแปะยาเพื่อป้องกันการเกิดฝ้าที่กระจกตา และใส่คอนแทคเลนส์ในตาไว้ประมาณ 5-7วัน โดยไม่ต้องถอดออก แพทย์จะเป็นคนถอดออกให้เองเมื่อแผลหาย
ผลข้างเคียงหลังทำ PRK
ระคายเคืองตา แพ้แสงน้ำตาไหลใน2-4วันแรก
อาการเห็นแสงกระเจิง รุ้ง แฉก หรือเงาซ้อน เวลามองแสงไฟในเวลากลามคืน จะเป็นมากใน2สัปดาห์แรก และจะค่อยๆดีขึ้นเรื่อยๆ และใกล้เคียงปกติหลัง 3-6เดือน มีบางรายอาจยังมีเรื่องแสงกระเจิงได้ถาวรซึ่งพบได้น้อย
ตาแห้ง อาการจะค่อยๆดีขึ้นเรื่อยๆหลัง3-6 เดือน
เกิดฝ้าที่กระจกตา ความเสี่ยงนี้จะพบในคนที่เป็นแผลเป็นง่าย เป็นคีลอยง่าย ทำกิจกรรมกลางแจ้ง โดดแดด แสงUVมาก ในช่วง1-3เดือนแรก อย่างไรก็ตาม แพทย์จะมีการใช้ยาเพื่อป้องกันการเกิดฝ้าในระหว่างที่ทำผ่าตัด และให้ยาหยอดตาหลังทำผ่าตัดเพื่อป้องกัน
ใครบ้างที่เหมาะที่จะทำPRK

สายตาสั้น+เอียงไม่เกิน 600
ไม่มีแผลเป็นที่กระจกตาหรือโรคทางตาอื่นๆ เช่น ต้อหิน จอประสาทตาหลุดลอก ตาแห้งรุนแรง เป็นต้น
ไม่มีโรคประจำตัว เช่น โรคไทรอยด์เป็นพิษ โรคภูมิต้านทานผิดปกติ โรคเนื้อเยื่อเกี่ยวพัน (SLE รูมาตอยด์) เบาหวานที่ควบคุมไม่ดี
ผู้ที่มีตาแห้งน้อยถึงปานกลาง สามารถทำวิธีนี้ได้ เนื่องจากวิธีนี้จะมีผลข้างเคียงเรื่องตาแห้งน้อยกว่าเลสิก
ผู้ที่ชอบทำกิจกรรม หรือมีอาชีพ ที่โลดโผนมีความเสี่ยงบ่อยในการเกิดอุบัติเหตุกระทบกระแทกที่ดวงตา เนื่องจากกระจกตาจะมีความแข็งแรงเหมือนคนปกติ ไร้รอยต่อ
ผู้ที่สามารถรอเวลาการฟื้นตัวของการมองเห็นได้ เนื่องจากการมองเห็นและค่าสายตาจะค่อยๆดีขึ้นเรื่อยๆ อย่างช้าๆ หลัง2-3สัปดาห์
การเตรียมตัวก่อนมาตรวจ >> เหมือนการเตรียมตัวก่อนทำเลสิกทั่วไป

ถอดคอนแทคเลนส์ก่อนมาตรวจ ถ้าเป็นเลนส์นิ่มไม่แก้เอียงถอดมาอย่างน้อย3วัน , ถ้าเป็นเลนส์นิ่มที่แก้เอียง ให้ถอดมาอย่างน้อย1สัปดาห์, ถ้าเป็นเลนส์แข็ง ให้ถอดมาอย่างน้อย2สัปดาห์
หยอดน้ำตาเทียมมาบ่อยๆ ทุกๆ1-2 ชั่วโมง
แนะนำทำ PRK ก่อนไปสอบทหารหรือตำรวจ อย่างน้อย 3เดือน เพื่อผลของการรักษาที่ดีเต็มที่ ค่าสายตานิ่งเป็นปกติ และไม่มีร่องรอยที่ผิวกระจกตา
การปฏิบัติตัวหลังทำPRK

หยอดยาตามแพทย์สั่งอย่างเคร่งครัด หยอดน้ำตาเทียมบ่อยๆ จะทำให้แผลหายเร็วขึ้น
ทานวิตามินซี 1000 mg 1-2 เม็ดต่อวัน เป็นเวลาอย่างน้อย 1-2 เดือน เพื่อลดโอกาสเกิดฝ้าที่กระจกตาและทำให้แผลสมานเร็วขึ้น
งดออกแดดทำกิจกรรมการแจ้ง ป้องกันแสงUV ไม่ให้เข้าตา ในช่วง 3-6เดือนแรก ใส่แว่นตากันแดดและหมวกปีกกว้างหากจำเป็นต้องอยู่กลางแจ้ง
การโดนแสงแดด แสง UV ในช่วงแรกจะมีโอกาสเกิดฝ้าที่กระจกตา ซึ่งถ้าเกิดฝ้าขึ้นจะต้องหยอดยารักษาฝ้าเป็นเวลาหลายเดือน และอาจทำให้ค่าสายตาไม่ดี เห็นรอยฝ้าจากการทำผ่าตัดได้
4. ช่วงสัปดาห์แรก พักสายตาบ่อยๆ งดใช้จอมือถือ คอมพิวเตอร์ นอนพักผ่อนให้เพียงพอ เพื่อให้แผล สมานตัวเร็ว จะทำให้การมองเห็นชัดเจนเร็วยิ่งขึ้น
5. ช่วงสัปดาห์แรกระวังเรือ่งความสะอาดให้มากๆ ห้ามน้ำเข้าตาโดยเด็ดขาด ระวังฝุ่นควัน เหงื่อไคลเข้าตา งดออกกำลังกาย เพื่อป้องกันการติดเชื้อ หากมีการติดเชื้อ อาจทำให้เกิดสายตามัวหรือแผลเป็นที่กระจกตาแบบถาวรได้
6. งดรับประทานปิ้งย่าง หรืออยู่หน้าเตาร้อนๆ มีควันมากๆ 1 สัปดาห์
7. หลัง 1-2 สัปดาห์ สามารถออกกำลังกาย ล้างหน้าได้ตามปกติ
บทความโดยแพทย์หญิงไรนา จินดาศักดิ์
Comments