top of page
ค้นหา

Intrastromal Corneal Ring Segments ICRS

อัปเดตเมื่อ 16 เม.ย.

การใส่วงแหวนเสริมในเนื้อกระจก

วงแหวน ICR คืออะไร


วงแหวนเสริมกระจกตา ICRS
วงแหวนเสริม ICRS Intrastromal corneal ring segment

เป็นเทคโนโลยีใหม่ในการรักษาโรคกระจกตาโก่งย้วย (keratoconus) โดยวงแหวนจะถูกสอดแทรกในเนื้อกระจกตาที่ความลึกประมาณ2/3ของความหนาของกระจกตาเพื่อเพิ่มความแข็งแรงและปรับรูปร่างของกระจกตาเพื่อลดความโก่งลง ให้กระจกตามีความโค้งใกล้เคียงปกติมากขึ้น ส่งผลทำให้ค่าสายตาสั้นและเอียงของผู้ป่วยลดลง การมองเห็นดีขึ้น และผู้ป่วยสามารถใส่แว่นตาหรือใส่คอนแทคเลนส์เสริมให้การมองเห็นชัดเจนยิ่งขึ้น โดยวงแหวน (Intrastromal corneal ring segment) ผลิตมาจากสารพอลิเมทิล เมทาคริเลท (Poly-methyl methacrylate : PMMA) ซึ่งเป็นวัสดุกลุ่มเดียวกับที่ใช้ในการผลิตเลนส์ตาเทียมสำหรับใช้ในการผ่าตัดต้อกระจกไม่ทำให้เกิดปฏิกริยากับร่างกาย ลักษณะรูปร่างเป็นวงแหวนที่มีหน้าตัดเป็นรูปสามเหลี่ยม มีความหนาตั้งแต่ 0.15, 0.20 และ 0.25 มิลลิเมตร และมีความยาวตามส่วนโค้งของวงกลม (arc length) ตั้งแต่ 140, 160, 210 และ 320องศา ซึ่งแพทย์จะทำการเลือกขนาดตามลักษณะกระจกตาของคนไข้


วงแหวนเสริม ICRS Intrastromal corneal ring segment
วงแหวนเสริม ICRS Intrastromal corneal ring segment

วงแหวน ดีอย่างไร


  1. ทำให้กระจกตามีความโค้งโก่งนูนลดลง ความโค้งใกล้เคียงปกติมากขึ้น จึงช่วยภาวะลดสายตาสั้นและเอียง อีกทั้งเพิ่มความแข็งแรงของกระจกตาทำให้ชะลอหรือหยุดการดำเนินโรคกระจกตาโก่งนูนได้

  2. เป็นการผ่าตัดที่เสริมวงแหวนเข้าไปในชั้นกระจกตาโดยใช้เลเซอร์เฟมโต (Femtosecond laser assisted) จึงเป็นการผ่าตัดที่มีความปลอดภัยสูง

  3. หากการผ่าตัดมีผลข้างเคียง สามารถถอดเอาวงแหวนออกได้ (reversible procedure) และสามารถเปลี่ยนขนาดวงแหวนได้

  4. การทำผ่าตัดไม่ต้องฉีดยาชา ไม่มีการเย็บแผล และไม่ต้องนอนโรงพยาบาล แผลมีขนาดเล็กเพียง1.2 มม. ไม่เจ็บและฟื้นตัวเร็ว


คนไข้กลุ่มไหนบ้างที่จะใช้วงแหวนในการรักษา

keratoconus กระจกตาโก่ง
keratoconus กระจกตาโก่ง

  1. โรคกระจกตาโป่งนูน (keratoconus, pellucid marginal degeneration)

เป็นกลุ่มคนไข้ส่วนใหญ่ที่ใช้วงแหวนชนิดนี้ในการรักษา ซึ่งจะรักษาในกรณีที่การดำเนินโรคเป็นมากจนไม่สามารถรักษาได้ด้วยแว่นตาและคอนแทคเลนส์ การใส่วงแหวนเฟอร์ราร่าจะช่วยปรับความโค้งกระจกตาให้แบนลงและโค้งสม่ำเสมอกันมากขึ้น ทำให้ผู้ป่วยสามารถมองเห็นได้ชัดเจนขึ้นด้วยตาเปล่า และสามารถใส่แว่นตาหรือคอนแทคเลนส์เสริมเพื่อให้มองเห็นชัดเจนยิ่งขึ้นได้ อีกทั้งยังช่วยชะลอการโป่งนูนของกระจกตาในระยะยาวได้อีกด้วย

  1. โรคกระจกตาโป่งนูนหลังทำเลสิก (Post-LASIK Ectasia)

  2. ผู้ที่มีภาวะสายตาเอียงมาก (High regular astigmatism)

  3. ผู้ที่มีสายตาเอียงหลังการผ่าตัดเปลี่ยนกระจกตา (Post keratoplasty astigmatism)


คนที่เหมาะกับการใส่วงแหวน


  1. สามารถเข้าใจและร่วมมือในการผ่าตัดได้อย่างดี

  2. มีความโค้งและความบางของกระจกตาอยู่ในเกณฑ์ที่สามารถผ่าตัดได้

  3. ไม่มีภาวะกระจกตาเป็นแผลเป็น หรือกระจกตาเคยทะลุจากโรคกระจกตาโป่งขั้นรุนแรง

  4. ไม่มีโรคประจำตัว เช่น โรคเบาหวานที่ควบคุมไม่ดี โรคไขข้ออักเสบรูมาตอยด์(Rheumatoid arthritis) โรคภูมิแพ้ SLE (Systemic lupus erythematosus)

  5. ไม่อยู่ในระหว่างตั้งครรภ์ หรือให้นมบุตร


ภาวะแทรกซ้อนที่อาจเกิดขึ้นได้ระหว่างและหลังผ่าตัดใส่วงแหวน


  1. วงแหวนอาจขยับหรือเลื่อนตำแหน่ง ซึ่งต้องทำการผ่าตัดซ้ำเพื่อจัดวางกลับเข้าในตำแหน่งเดิม

  2. การติดเชื้อที่กระจกตา หลังผ่าตัดจึงต้องทำตามคำแนะนำหลังผ่าตัดอย่างเคร่งครัด

  3. ค่าความโค้งของกระจกตาหลังผ่าตัดอาจลดลงน้อยกว่า หรือมากกว่าที่คำนวณไว้

  4. เห็นแสงแตกกระจาย หรือเห็นวงรอบดวงไฟ ในเวลากลางคืน ผู้ป่วยจะสามารถปรับตัวได้ดีและมีอาการลดลง หลัง6เดือน

  5. กระจกตามีความขุ่นตามร่องที่ใส่วงแหวน


การเตรียมตัวก่อนเข้ารับการรักษา


  1. งดใส่คอนแทคเลนส์อย่างน้อย 3-7วัน ก่อนวันตรวจสำหรับเลนส์แบบนิ่ม (soft contact lens) และงดใส่อย่างน้อย

    1-2 สัปดาห์ก่อนวันตรวจสำหรับคอนแทคเลนส์แบบแข็ง (Hard or RGP contact lens)

  1. ท่านจะได้รับการหยอดยาขยายม่านตาในวันตรวจสภาพตา หลังขยายม่านตาท่านจะมองใกล้ไม่ชัดเป็นเวลา 4-6ชม และไม่ควรขับรถกลับด้วยตัวเอง

  2. การตรวจประเมินสภาพตาอย่างละเอียดใช้เวลาประมาณ 2 ชั่วโมง

  3. นำประวัติการรักษาเกี่ยวกับโรคตามาด้วยเพื่อประกอบการรักษา

  4. วันผ่าตัด

    • งดใช้เครื่องสำอางค์บนใบหน้าและรอบดวงตาทุกชนิดและผลิตภัณฑ์ที่มีกลิ่นหอมทุกประเภท

    • สวมเสื้อที่มีกระดุมหน้า หรือเสื้อคอกว้าง เพื่อป้องกันการสัมผัสดวงตาขณะถอดหรือสวมใส่

    • ควรมีญาติพากลับบ้านหลังผ่าตัด


วิธีการผ่าตัดใส่วงแหวน (ring implantation)


สามารถนัดทำผ่าตัดหลังจากได้ผลการคำนวณขนาดและความโค้งของวงแหวน โดยปกติ 3-5วันหลังจากการตรวจ

  1. ใช้เลเซอร์เฟมโต (Femtosecond laser) เลเซอร์จะสามารถกำหนดขนาดและความลึกของช่องสำหรับใส่ได้อย่างแม่นยำและปลอดภัย วิธีนี้เป็นที่นิยมใช้ในปัจจุบันเนื่องจากความปลอดภัยและแม่นยำกว่าการใช้ใบมีดตัดร่อง

  2. หลังจากเปิดช่องกระจกตาเรียบร้อยแล้ว แพทย์จะทำการใส่วงแหวนให้ตรงตามตำแหน่งที่คำนวณไว้

  3. การผ่าตัดใช้เวลาประมาณ 10-20 นาทีต่อ1ข้าง หลังทำผ่าตัดท่านสามารถกลับไปพักฟื้นที่บ้านได้ทันที

  4. แพทย์อาจใส่คอนแทคเลนส์ไว้ให้ในบางกรณี คอนแทคเลนส์จะใส่ไว้1-2วัน โดยแพทย์จะเป็นผู้ทำการถอดให้ท่านเอง


การปฏิบัติตัวหลังการผ่าตัด


แพทย์จะนัดมาตรวจในวันรุ่งขึ้น ท่านสามารถใช้ชีวิตประจำวันได้ตามปกติ แต่ไม่ควรใช้สายตามากในช่วง 1-2 วันแรก และควรปฏิบัติตามคำแนะนำอย่างเคร่งครัด

  1. ควรปิดฝาครอบตาทุกครั้งก่อนนอน อย่างน้อย 14 วัน เพื่อป้องกันการขยี้ตา

  2. ห้ามขยี้ตาเนื่องจากอาจทำให้วงแหวนเคลื่อนได้

  3. ควรระวังไม่ให้น้ำเข้าตา และหลีกเลี่ยงฝุ่นละอองหรือควันบุหรี่เป็นเวลา 7 วัน

  4. งดว่ายน้ำ 2 สัปดาห์ สำหรับน้ำทะเลหรือดำน้ำควรงดประมาณ 3 สัปดาห์

  5. ควรงดการออกกำลังกายที่กระเทือนต่อดวงตาและระวังเหงื่อเข้าตาประมาณ 1-2 สัปดาห์

  6. ควรสวมแว่นกันแดดเมื่อออกกลางแจ้งช่วง1-2เดือนแรก

  7. สามารถแต่งหน้า หลังผ่าตัด 7 วัน


แพทย์จะนัดตรวจติดตามผลที่1 วัน 1สัปดาห์ 1เดือน 3เดือน 6เดือน และ 1ปีหลังผ่าตัด และติดตามต่อเนื่องทุกๆ 6 เดือนถึง1ปี  


บทความโดย พญ.ไรนา จินดาศักดิ์

 
 
 

Comments


02-408-0113, 091-0190829

  • Facebook
  • TikTok

LINE ID : stheent

โรงพยาบาลสมิติเวชธนบุรี

Samitivej Thonburi Hospital, Somdet Phra Chao Tak Sin Road, Samre, Thon Buri, Bangkok, Thailand

© 2035 by Doctor Raina Eyes and LASIK. Powered and secured by Wix 

Your Vision is Our Priority

Free Online Consultation

Birthday
วัน
เดือน
ปี
bottom of page